สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ คนไหนที่มีความเสี่ยงที่จะเกิด หรือ กำลังเป็น ภาวะโลหิตจาง ( Anemia ) วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูล สมุนไพรบำรุงเลือด เพื่อ ป้องกัน และ รักษา ภาวะโลหิตจาง มาให้เพื่อน ๆ ได้อ่าน และ ไปลองหามาทานกันดูแล้วค่ะ
เลือด เป็นของเหลวสีแดง ที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย หากเลือดทำงานด้อยประสิทธิภาพลง จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอลง เจ็บป่วยได้ง่าย เราจึงควรใส่ใจดูแลบำรุงเลือดให้สมบูรณ์ เมื่อระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ร่างกายก็แข็งแรง จากภายในสู่ภายนอก และ ป้องกันไม่ให้เกิด ภาวะโลหิตจาง ( Anemia ) ได้อีกด้วย
ภาวะโลหิตจาง ( Anemia ) มีอาการเช่นไร ?
- เบื่ออาหาร
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- ตัวซีดเหลือง อย่างเห็นได้ชัด
- หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน
- หายใจลำบาก ขณะออกแรง
- มึนงง วิงเวียนศีรษะ
- เจ็บหน้าอก ใจสั่น
- หากมีอาการรุนแรงอาจทำให้หัวใจล้มเหลว
- หากมีอาการเรื้อรัง อาจพบอาการมุมปากเปื่อย เล็บมีลักษณะ อ่อนแอ และ แบน หรือ เล็บเงยขึ้น มีแอ่งตรงกลาง คล้ายช้อน
เห็นแบบนี้แล้ว ใครที่อยากบำรุงเลือด ให้แข็งแรงสมบูรณ์ สิ่งที่ควรใส่ใจเป็นอันดับแรกเลย คือ อาหารการกิน นั่นเอง มีพืชผักสมุนไพรอยู่เป็นจำนวนมาก ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด ไม่ว่าจะในคนปกติ หรือ ผู้ที่มี ภาวะโลหิตจาง ( Anemia ) สามารถเลือกกินได้ เอาล่ะมาดูเจ้าสมุนไพร ที่ช่วยบำรุงเลือดกันค่ะ
1. ชะอม ( Senegalia Pennata )
ชะอม ประกอบไปด้วย ฟอสฟอรัส ( Phosphorus ) และ ธาตุเหล็ก ( Iron ) เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ เหล็ก เป็นส่วนประกอบ ของเม็ดเลือดแดง ช่วยบำรุงเลือด และ ป้องกันภาวะโลหิตจาง ( Anemia ) ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นผักสวนครัวกินได้ ที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง
2. ดอกคำฝอย ( Safflower )
ดอกคำฝอย เป็นสมุนไพร ที่นิยมนำชงเป็นชาดื่ม มีสรรพคุณเป็นสมุนไพร ช่วยบำรุงเลือด ช่วยฟอกเลือด แก้โรคเลือดเป็นพิษ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และ ขยายหลอดเลือด จึงทำให้ระบบไหลเวียนเลือด ทำงานได้ดีขึ้น การแลกเปลี่ยนออกซิเจน ในเส้นเลือดทำได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยสลาย และ ป้องกัน การจับตัวกัน ของลิ่มเลือด บำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจแข็งแรง และ สูบฉีดเลือดได้ดี
3. กานพลู ( Clove )
กานพลู สมุนไพรที่มีสรรพคุณ ทางยามากมาย มีกลิ่นหอม มีส่วนช่วยในการดูดซึม ธาตุเหล็ก ( Iron ) แก้เลือดเสีย ช่วยบำรุงเลือด ช่วยละลายลิ่มเลือด และ ลดการจับตัวเป็นก้อนของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น กานพลู นำมาเป็นยาได้หลายขนาน ทั้งทำยาหอม บดเป็นผงผสมกับตัวยาชนิดอื่น ๆ หรือ สกัดเอาน้ำมัน เป็นต้น กานพลู เหมาะสำหรับผู้หญิง ที่กำลังให้นมบุตร เพราะจะทำให้ มีน้ำนมมากขึ้น แต่หากกำลังตั้งครรภ์อยู่ ควรหลีกเลี่ยง หรือ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
5. ตังกุย หรือ โกฐเชียง ( Chinese Angelica )
ตามตำรับยาไทย ตังกุย หรือ โกฐเชียง คือ ส่วนที่เป็นราก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสหวานอมขม เผ็ดเล็กน้อย เป็นสมุนไพร ที่มีฤทธิ์ร้อน มีสรรพคุณโดดเด่น คือ ช่วยฟอกเลือด บำรุงเลือด ตังกุย หรือ โกฐเชียง อุดมไปด้วย วิตามินบี 12 ซึ่งช่วยรักษา ภาวะโลหิตจาง ( Anemia ) เลือดพร่องหรือเลือดน้อย ผู้ที่มีเลือดน้อย ตัวจะเหลือง ปลายนิ้ว และ เล็บจะซีด หากกิน ตังกุย หรือ โกฐเชียง บ่อย ๆ จะช่วยให้เลือด กระจายตัวได้ดี ระบบไหลเวียนเลือด ทำงานได้ดีขึ้น ตัวจะซีดน้อยลง ดูมีเปล่งปลั่ง และ มีน้ำมีนวล
นอกจากนี้ ตังกุย หรือ โกฐเชียง ยังใช้เป็นยาสำหรับผู้หญิง แก้อาการปวดท้องประจำเดือน ช่วยขับเลือด ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ช่วยกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวดี มดลูกเข้าอู่เร็ว หลังคลอด ลดอาการร้อนวูบวาบ และ หงุดหงิดจากวัยทอง จึงเหมาะอย่างยิ่ง ที่จะเป็นยาบำรุงร่างกาย สำหรับสาว ๆ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสรรพคุณที่ช่วยขับเลือด และ กระตุ้นการบีบตัวของมดลูก สาว ๆ คนไหน ที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรกิน ตังกุย หรือ โกฐเชียง นะคะ
6. ลูกจัน หรือ ผลอินจัน ( Diospyros Decandra )
ลูกจัน หรือ ผลอินจัน เป็นผลไม้ที่หาได้ยากมาก ๆ ในปัจจุบัน ลูกจัน หรือ ผลอินจัน มีลักษณะกลมแป้น สีเหลืองมีกลิ่นหอม รสฝาดหวาน มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ บำรุงธาตุ บำรุงเลือด ลดอาการปวดมดลูก ทั้งยังช่วยขับลม แก้จุกเสียดแน่นท้อง แก้อาการอาหารไม่ย่อย และ ลดการปวดท้อง จากท้องเสีย ท้องร่วง เป็นต้น
อ่านบทความเพิ่มเติม
แท็ก :
บทความที่น่าสนใจ