สมุนไพร กับ วัยทอง ควรเลือกอย่างไร เพื่อ ผู้เข้าสู่วัยทอง
แชร์:
facebook_share
line_share
twitter_share messenger_share

สมุนไพร กับ วัยทอง ควรเลือกอย่างไร เพื่อ ผู้เข้าสู่วัยทอง


การใช้ประโยชน์ จาก สมุนไพร ต่าง ๆ นั้น นับว่าดีต่อร่างกายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมุนไพร กับ วัยทอง ควรเลือกอย่างไร เพื่อ ผู้สูงอายุ เราไปดูพร้อม ๆ กันเลย

 

หากคุณ เกิดอาการ ร้อนวูบวาบ  นอนไม่หลับ  หงุดหงิดง่าย  วิตกกังวลง่าย ช่องคลอดแห้ง หย่อน ความต้องการทางเพศ นั้นลดลง ผิวหนังเหี่ยว ขาดความยืดหยุ่น เต้านมหย่อนไม่เต่งตึง เอ๊ะ เป็นอย่างไรกันแน่นะ หรือว่า .. . จะเข้าสู่ ช่วงวัยทอง แล้ว??

 

 

 

 

 ซึ่ง อาการเหล่านี้ คือ อาการแสดง หลังจากหมดประจำเดือน ที่ผู้หญิงหลาย ๆ คน ต้องพบเจอ เพราะว่า ในช่วงอายุตั้งแต่ 40 - 59 ปี นั้น ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน ภายในร่างกาย ของผู้หญิงลดน้อยลง เนื่องจาก รังไข่ ได้หยุดทำงาน ซึ่งทำให้สิ้นสุด การมีประจำเดือน อย่างถาวรนั่นเอง และจะเกิดปัญหาสุขภาพ รวมทั้ง โรคต่าง ๆ ตามมาได้ง่าย อาทิ โรคความดัน, ไขมัน, เบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคกระดูกพรุน และอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย

 

นั่นเพราะ ฮอร์โมน จะลดลงอย่างต่อเนื่อง จนหยุดผลิตไปในที่สุด ทำให้ร่างกาย นั้นเสียสมดุล และจะเกิดอาการต่าง ๆ ดังที่กล่าวไปข้างต้น สารอาหาร ที่สามารถช่วยบำรุงร่างกาย หรือสามารถเพิ่มระดับ ฮอร์โมนเพศได้ ก็จะเป็น สารกลุ่มไอโซฟลาโวน ที่เมื่อได้เข้าสู่ร่างกาย ก็จะเปลี่ยนเป็นไฟโตเอสโตรเจน ทำหน้าที่ออกฤทธิ์ คล้าย ๆ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ของเพศหญิง จะสามารถรักษาสมดุลของฮอร์โมนได้ ถ้าหากได้รับสารอาหารอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3 - 4 เดือน โดยสมุนไพร ที่มี สารไอโซฟลาโวน นั้นมีหลายชนิด แต่หลัก ๆ นั้นเป็นที่รู้จักก็จะมี ดังนี้ค่ะ

 

 

 

 

 

สารสกัดจากถั่วเหลือง

มีสารไอโซฟลาโวนที่สำคัญ นั้นคือ เดดซีน ( daidzein ) และ จีนิสทีน ( genistein ) ที่เป็นสารกลุ่มไฟโตเอสโตรเจน

 

สรรพคุณ

1. ช่วยบรรเทาอาการหมดประจำเดือน อาการร้อนวูบวาบ

2. ช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิด โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันอุดตัน มะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้เป็นอย่างดี

3. ช่วงเพิ่มการเผาผลาญ ภายในร่างกาย รวมถึง การจัดการน้ำหนัก

4. ช่วยป้องกันกระดูกพรุน

5. ช่วยให้นอนหลับสบาย ทำให้ส่งผลดีต่อการนอน

 

วิธีการทาน : รับประทานให้ได้สารไอโซฟลาโวน 50-100 มิลลิกรัม/วัน

ผลข้างเคียง : ท้องอืด แน่นท้อง ท้องอืด เนื่องจากว่า ในถั่วเหลือง นั้นมีโปรตีนมาก แต่อาจจะ ไม่เกิดกับทุก ๆ คน ก็เป็นได้

ข้อควรระวัง : ยังไม่มีรายงานความเป็นพิษ ถ้าหากรับประทานต่อเนื่อง แต่ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ถั่ว หรือว่า ถั่วเหลือง จะดีที่สุด

 

 

 

ว่านชักมดลูก

มีสารกลุ่มไดแอริลเฮปตานอยด์ ( Diarylheptanoid ) โดยเป็นกลุ่มไฟโตเอสโตรเจน

 

สรรพคุณ

1. ช่วยรักษาอาการของสตรี ประจำเดือน มาไม่ปกติ

2. ช่วยบรรเทาอาาร ปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน ตกขาว

3. ช่วยขับน้ำคาวปลา

4. ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร และไส้เลื่อน

5. ช่วยบรรเทาอาการวัยทอง

 

วิธีการทาน: รับประทานผงว่านชักมดลูก แบบบดแห้ง  250 -500  มิลลิกรัม/วัน

 

ผลข้างเคียง: มีตกขาว ที่มากกว่าปกติ จะเป็นอาการที่พบได้บ่อยสุด ในการรับประทาน ว่านชักมดลูก จะมีอาการ วิงเวียนศีรษะ มีผื่นขึ้น ตึงหน้าอก รวมถึง ปวดมดลูก ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ ถ้าหากรับประทาน ในปริมาณที่มากเกินไป หรือว่า ร่างกาย ของผู้ที่รับประทาน นั้นไม่แข็งแรง

 

ข้อควรระวัง :

1. ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยาตัวนี้ ผู้ที่มีปัญหาท่อน้ำดีอุดตัน  เนื่องจาก ในว่านชักมดลูกมีฤทธิ์การหลั่งน้ำดี 

2. ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่ ให้นมบุตร และไม่ควรใช้ ในขณะมีรอบเดือน เพราะว่า ว่านชักมดลูกมีฤทธ์กระตุ้น ในการบีบตัวของมดลูก

 

         

และนี่ก็เป็น สมุนไพร กับ วัยทอง ควรเลือกอย่างไร เพื่อ ผู้สูงอายุ ที่ควรรับประทาน และดีต่อสุขภาพอีกด้วยค่ะ

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ชากุหลาบ ชาสรรพคุณที่ดี ต่อสุขภาพ

สมุนไพร บำรุงสายตา เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดี


แท็ก :


บทความที่น่าสนใจ

สอบถามเพิ่มเติม คลิก

payment
แจ้งชำระเงิน คลิก