ออฟฟิศซินโดรม ( Office Syndrome ) เป็นโรคที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เป็นภัย ใกล้ตัว ที่มาแบบเงียบๆ ถ้าหากทุกคนมี อาการ ปวดเมื่อย เช่น เมื่อยคอ ไหล่ บ่า เมื่อยหลัง หรืออาการ ปวดศีรษะ บ่อยครั้ง ซึ่งนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับ สุขภาพ ของ โรคออฟฟิศซินโดรม
วันนี้เราพามาสังเกต อาการ ของ โรคออฟฟิศซินโดรม ( Office Syndrome ) ว่าเรามี อาการ เหมือนสัญญาณเตือนแบบนี้หรือไม่ ?
ซึ่ง อาการ ปวดหัวเรื้อรัง หรือ บางทีมี อาการ ปวดหัวไมเกรน ร่วมด้วยซึ่งสาเหตุ เกิดจาก ความเครียด ในการ ทำงาน หรือ การใช้สายตาในการ ทำงาน เป็นเวลานาน ๆ เช่น การอ่านเอกสาร การใช้สายตาจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ หรือ แสงบริเวณโต๊ะ ทำงาน ไม่เพียงพอ หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อมในวันที่ ทำงาน ที่วุ่นวาย ไม่สงบ และอาจจะทำให้เราเกิดความเครียดสะสม โดยที่เราไม่รู้ตัว
เป็น อาการปวดหลัง นั้นสังเกตได้ง่าย ๆ เลย เพราะเป็น อาการ ยอดฮิตอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ ซึ่งสาเหตุของโรคนี้ เกิดจากการที่เรานั่ง ทำงาน ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ทั้งวันหรือเป็นงานที่ต้องยืนนาน ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ใส้รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ อาการ ของการ ปวดหลัง นั้นคงจะหลีกเลี่ยงได้ยาก
ซึ่งสาเหตุของ อาการ ที่เราสังเกตได้ง่าย ๆ เลยคือ ถ้าหากเราเป็นคนที่นั่งอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์นานกว่า 8 ชั่วโมง และอยู่กับกองเอกสารทั้งวัน แล้วมี อาการ ปวดตึง ต้นคอ ปวดบ่า และ ปวดไหล่ อยู่บ่อย ๆ หรือบางทีมี อาการ ปวดจนหันคอลำบาก ก้มก็ร้องโอดโอย จะเงยก็ปวด และนี่ก็คือ อาการ ของ ออฟฟิศซินโดรม ( Office Syndrome )
อาการ แบบนี้สังเกตง่าย ๆ ว่าเราเป็น เหน็บชา บ่อย ๆ รึเปล่า หรืออยู่ดี ๆ ขาไม่มีเรี่ยวแรง หรืออยู่ดี ๆ ขาไม่มีแรง ซึ่ง อาการ เหล่านี้เกิดจากการที่เรานั่ง ทำงาน นาน ๆ จึงทำให้เส้นเลือดดำถูกกดทับ และส่งผลให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ จึงเกิด อาการ เหน็บชา ได้ง่าย และถ้าหากมี อาการ แต่ไม่รีบรักษาปล่อยไว้เป็นเวลานาน ๆอาเกิด อาการ ชาและลามไปถึงเท้าได้
เป็นสาเหตุของ อาการ ที่เกิดจากการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ เส้นเอ็นนิ้วมือ ที่มาจากการที่เราใช้ คอมพิวเตอร์ เป็นเวลานาน ๆ ในการจับเมาส์ หรือพิมพ์เอกสารในท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน จึงทำให้ กล้ามเนื้อ กดทับเส้นประสาทจนเกิดพังผืดยึดจับบริเวณนั้นจึงเป็นจำนวนมาก ทำให้ ปวดปลายประสาท นิ้วล็อค หรือ ข้อมือล็อค ได้
ซึ่งวิธีการรักษา โรคออฟฟิศซินโดรม ( Office Syndrome ) นั้นทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
ถ้าหากเรารู้สึก ปวดเมื่อย ควรพักการ ทำงาน เพื่อให้ ผ่อนคลาย ร่างกาย และสมองอย่างการลุกขึ้นยืดเส้น ยืดสาย หรือเดินไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง เพราะฉะนั้นเราไม่ควรนั่ง ทำงาน ติดกันนานจนเกินไป
ซึ่ง กล้ามเนื้อ ร่างกาย ของเรายังต้องการ พักผ่อน สายตาเองก็เช่นกัน เราจึงไม่ควรเพ่งจอคอมพิวเตอร์นานหรือใกล้จนเกินไป เราควรพักสายตาทุก ๆ 1 ชั่วโมง เพราะถ้าหากเราเพ่งสายตากับจอคอมนานจนเกินไป อาจจะส่งผลทำให้ ปวดเมื่อย ตาม กล้ามเนื้อ ตา และ ปวดศีรษะ ได้
การนั่ง ทำงาน เราไม่ควรนั่งหลังค่อม หรือ นั่งเอนหลัง เพราะจะทำให้ กล้ามเนื้อ เกิดการล้า และเสียบุคลิกได้ เราควรจะนั่งหลังตรง ซึ่งไม่เพียงช่วยลด อาการปวดหลัง แต่ยังช่วยทำให้ สุขภาพ หมอนรองกระดูกดีขึ้นด้วย และยังช่วย ป้องกันโรคข้อ ช่วยบรรเทา อาการปวดศีรษะ จะทำให้การไหลเวียนของออกซิเจนได้ดี
อ่านบทความเพิ่มเติม
แท็ก :
บทความที่น่าสนใจ