10 วิธีล้างผักผลไม้ ให้สะอาด ปลอดสารเคมี
ผักและผลไม้สด ที่ขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่ จะมีสารพิษจากยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่ รวมไปถึงเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และสารโลหะหนักอื่น ๆ ที่ปะปนมา กับผักผลและไม้ ซึ่งสารเหล่านี้ จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน สารพิษเหล่านี้ จะเกาะกับผิวบางส่วน และแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อของผักผลไม้ ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถมองเห็น สารพิษที่ติดมากับผักและผลไม้ โรคที่มาพร้อมกับผักและผลไม้ที่ปนเปื้อน สารพิษจะมีทั้งโรคชนิดที่เกิดแบบเฉียบพลัน และโรคเรื้อรัง อาการเฉียบพลัน เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืด หายใจไม่ออก หรือที่เรียกว่า อาหารเป็นพิษ ส่วนโรคเรื้อรังของการได้รับสารพิษที่มาจากผักและผลไม้ ส่วนมากจะมาจากการได้รับสารพิษจากยาฆ่าแมลง เช่น ทำให้เกิดโรคมะเร็ง โรคพาร์กินสัน โรคกระเพาะอาหาร การเจริญเติบโตที่ผิดปกติในเด็ก และทำให้เกิดความเครียด ดังนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ในการรับประทานผักผลไม้อย่างปลอดภัย ก่อนนำไปรับประทาน ต้องนำมาล้างให้สะอาดก่อน ในปัจจุบันก็มีวิธีการล้างผักอยู่หลายวิธี เพื่อลดปริมาณของสารพิษตกค้าง ที่มากับผักผลไม้ ให้มีปริมาณลดน้อยลง ซึ่งจะใช้วิธีใดก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลัก
เริ่มด้วยการล้างผักรอบแรกให้สะอาดก่อน หลังจากนั้นเด็ดผักออกเป็นใบ ๆ แล้วนำมาแช่ในอ่างน้ำที่เตรียมไว้ประมาณ 15 นาที วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากฆ่ายาแมลงได้ประมาณ 7 - 33%
โดยเด็ดผักออกเป็นใบ ๆ ใส่ในตะกร้า แล้วเปิดน้ำให้แรงพอประมาณ ใช้มือช่วยคลี่ใบผัก และถูใบผักผลไม้ไปด้วย วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 25-63%
วิธีนี้ให้นำผักหรือผลไม้มาปอกเปลือก หรือการลอกใบผักชั้นนอกออก เช่น กะหล่ำปลี แครอท ฟักทอง โดยให้ลอกเปลือกหรือกาบด้านนอกออกทิ้งสัก 2 - 3 ใบ เพราะสารพิษส่วนใหญ่ จะสะสมตกค้างบริเวณเปลือกด้านนอก หรือบริเวณกาบ แล้วจึงนำไปแช่ในน้ำสะอาดอีกประมาณ 5 - 10 นาที หลังจากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณ ของสารพิษตกค้างได้ประมาณ 27 - 72%
ใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 4 ลิตร แล้วนำผักผลไม้แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยลดปริมาณของสารพิษตกค้างได้ประมาณ 27 - 38%
เตรียมน้ำปูนใสอิ่มตัว ที่ผสมกับน้ำเท่าตัว แล้วนำมาผักมาแช่ในน้ำปูนใส ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยสะอาด วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณ ของสารพิษตกค้าง ได้ประมาณ 34 - 52%
ใช้ด่างทับทิมประมาณ 20 - 30 เกล็ด ผสมกับน้ำ 4 ลิตร แล้วนำผักมาแช่ไว้ในน้ำด่างทับทิม ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยสะอาด วิธีนี้จะช่วยลดประมาณ ของสารพิษตกค้าง ได้ประมาณ 35 - 43%
เตรียมน้ำสายชู ที่มีกรดน้ำส้มความเข้มข้น 5% ของกรดน้ำส้ม นำมาผสมกับน้ำ ในอัตราส่วน 1 : 10 ส่วน แล้วจึงนำผักมาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 - 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยลดสารพิษจากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 60 - 84%
เบกกิ้งโซดา ( Baking Soda ) สามารถนำมาใช้ล้างสารพิษจากผักและผลไม้ได้เช่นกัน และเป็นวิธีที่นิยม ด้วยการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต 1/2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 10 ลิตร แล้วนำผักหรือผลไม้มาแช่ไว้ประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษได้มากถึง 90 - 95% เลยทีเดียว
การแช่ผักในน้ำยาล้างผัก ที่มีวางจำหน่ายกันอยู่ทั่วไป ให้เลือกใช้ที่มีความเข้มข้นประมาณ 0.3% ในน้ำ 4 ลิตร นำผักหรือผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณของสารพิษจากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 25 - 70%
เป็นเทคโนโลยี ไฮดรอกซีวอเตอร์ไอออน ใช้น้ำในการล้าง โดยไม่มีสารเคมีเพิ่มเติม สามารถย่อยสลายแบคทีเรีย สารกําจัดศัตรูพืชที่ตกค้าง และฮอร์โมนในอาหาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องจะทำงานอัตโนมัติ โดย 1 นาทีแรก จะเป็นการทำงานร่วมกัน โดยใช้ระบบน้ำวน และระบบไฮโดรซี่ หลังจาก 1 นาที จะเปลี่ยนไปเป็นระบบสั่น ระบบจะทำงานไปเรื่อย ๆ และหลังจาก 5 นาที เครื่องจะกลับมาทำระบบน้ำวน และระบบไฮโดรซี่ ต่อเนื่อง 10 นาที และเครื่องจะตัดการทำงานอัตโนมัติ ถือว่าการล้างเสร็จสมบูรณ์
คำแนะนำในการล้างผัก จะเลือกวิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ความสะดวกของแต่ละคน รวมไปถึงชนิดและปริมาณของผักไม้ และเวลาที่มีอยู่ของแต่ละคน และที่สำคัญอย่างมาก ให้รับประทานผักและผลไม้ให้หลากหลายชนิด ไม่ควรรับประทานแบบซ้ำ ๆ เดิม ๆ เลือกรับประทานผักหรือผลไม้ตามฤดูกาล เปลี่ยนร้านที่ซื้อผักหรือผลไม้บ้าง หรือเลือกซื้อกับร้านที่ไว้ใจได้ ถ้าจะให้ดีก็ให้เลือกรับประทานผักปลอดสารพิษ ผักออแกนิกที่ผ่านการรับรอง ผักผลไม้ที่มีร่องรอยที่ถูกหนอนเจาะบ้าง เนื่องจากถ้าผักหรือผลไม้มีสารตกค้างหรือมีสารพิษก็จะได้ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของเรามากนัก
อ่านบทความเพิ่มเติม :
แท็ก :
บทความที่น่าสนใจ