1. ตรวจโควิด – 19 แบบ Real-time RT PCR
วิธีแรกเป็นการตรวจสารพันธุกรรมของไวรัสด้วยวิธี Real-time RT PCR ซึ่งเป็นวิธีที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ และประเทศไทยพร้อมใช้อยู่ในปัจจุบัน องค์การอนามัยโลกแนะนำ การตรวจด้วยวิธีนี้มีข้อดีคือ มีความจำเพาะ และแม่นยำสูง สามารถทราบผลภายใน 1-2 วัน และสามารถตรวจจับเชื้อไวรัสในปริมาณน้อย ๆ ได้
ดังนั้น ไม่ว่าจะเชื้อไวรัสนั้น คือเชื้อเป็น หรือเชื้อตาย ก็สามารถตรวจจับได้หมดจากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจส่วนบน ส่วนล่าง ของผู้สงสัยติดเชื้อ ถือว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคเพื่อการรักษาที่รวดเร็ว ตั้งแต่ระยะแรกของการเกิดโรค
2. ชุด ตรวจโควิด – 19 แบบ Rapid Test
คือ ชุดทดสอบอย่างง่าย และรวดเร็ว สำหรับการตรวจหาเชื้อไวรัส และภูมิคุ้มกันโควิด-19 ซึ่งใช้เวลาในการตรวจประมาณ 10 – 30 นาที เร็วกว่าวิธีการตรวจแบบ RT-PCR ( Real Time Polymerase Chain Reaction ) ที่ใช้เวลาประมาณ 24 – 48 ชั่วโมง แต่การตรวจแบบ Rapid Test เป็นแค่เพียงการคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น ผลลัพธ์จะยืนยันได้ ก็ต่อเมื่อเข้ารับการตรวจยืนยันผลจากห้องปฏิบัติการ ด้วยวิธีการตรวจแบบ RT-PCR ที่โรงพยาบาลเท่านั้น
ถึงแม้ว่าการตรวจแบบ Rapid Test จะไม่สามารถยืนยันผลลัพธ์การติดเชื้อโควิด-19 ที่แม่นยำได้ แต่ก็สามารถใช้คัดกรองในเบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ เพื่อลดปัญหาความแออัด และการรอคิวนานจากการเดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล และยังเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ตรวจพบเชื้อได้เร็วขึ้น เพื่อให้เข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ชุด ตรวจโควิด – 19 แบบ Rapid Test แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ Rapid Test ชนิดตรวจ Antigen ( Rapid Antigen Test ) กับชนิดตรวจ Antibody ( Rapid Antibody Test ) ซึ่งมีจุดประสงค์ในการตรวจที่แตกต่างกัน ดังนี้
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยอนุญาตให้ประชาชนซื้อมาใช้ตรวจเองได้ แค่ชุด Rapid Antigen Test เท่านั้น ( ทางภาครัฐจะเรียกว่าชุด Antigen Test Kit ) โดยจะเริ่มให้ซื้อได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนชุด Rapid Antibody Test อนุญาตให้ใช้ได้แค่ในสถานพยาบาล เนื่องจากชุด Rapid Antibody Test มีโอกาสคลาดเคลื่อนสูง และหากผู้ใช้เจาะเลือดไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ โดยขณะนี้มีชุด Rapid Antigen Test ขึ้นทะเบียนกับอย. แล้วทั้งหมด 24 ยี่ห้อ จึงทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนไทยว่า ราคาชุดตรวจนั้นแพงไปสำหรับค่าแรงขั้นต่ำหรือเปล่า เพราะการตรวจด้วยชุด Rapid Antigen Test จะต้องมีการตรวจซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้งตามคำแนะนำ ซึ่งแปลว่า หนึ่งคนใช้ไม่ต่ำกว่า 1 ชุด คงต้องรอติดตามต่อไปว่า ทางภาครัฐจะมีการปรับราคาหรือมีมาตรการการเบิกจ่ายออกมารองรับต่อไปหรือไม่
ข้อควรระวังในการใช้งานชุด ตรวจโควิด – 19 แบบ Rapid Test
วิธีการใช้ชุดตรวจ Rapid Antigen Test
วิธีอ่านค่าผลตรวจ
กรณีผลเป็นบวก ( พบเชื้อ ) ให้ปฏิบัติ ดังนี้
กรณีผลเป็นลบ ( ไม่พบเชื้อหรือเชื้อมีปริมาณไม่มากพอ ) ให้ปฏิบัติ ดังนี้
วิธีทิ้งชุด ตรวจโควิด – 19 แบบ Rapid Test หลังตรวจเสร็จ
ควรใส่ชุดจรวจที่ใช้แล้วลงซีล แล้วทิ้งในถุงขยะแยกจากขยะอื่น ๆ โดยต้องปิดปากถุงขยะให้แน่นหนา และมิดชิด ห้ามไม่ให้ขยะหลุดรอดออกมาได้ เป็นไปได้ควรใส่ขยะในถุงสีแดง เพราะใช้สำหรับใส่ขยะติดเชื้อ หรืออาจแปะป้าย/ทำสัญลักษณ์ ให้รู้ว่าเป็นขยะติดเชื้อ
ในช่วงเวลานี้ การเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นเรื่องที่ลำบากมาก เนื่องจากชุดอุปกรณ์ไม่เพียงพอ รวมทั้งความแออัดเบียดเสียดในการรอตรวจ ชุดตรวจ Rapid Antigen Test จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ออกมารองรับปัญหาเหล่านี้ แม้จะไม่สามารถการันตีผลได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถใช้คัดกรองเบื้องต้นได้ โดยหวังว่าในอนาคต ชุดตรวจเหล่านี้จะสามารถซื้อได้ง่าย และมีราคาที่จับต้องได้สำหรับคนทุกกลุ่มทุกรายได้มากยิ่งขึ้น
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
แท็ก :
บทความที่น่าสนใจ